โรคปอดอักเสบเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นอันดับหนึ่งของเด็กทั่วโลก และคาดว่าในปี พ.ศ. 2568 จะมีเด็กทั่วโลกเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบทางเดินหายใจประมาณ 5 ล้านคน โดยร้อยละ 97 เป็นเด็กที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา (WHO1998) ในประเทศไทย พบรายงานอัตราผู้ป่วยโรคปอดอักเสบมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (พ.ศ. 2549 – 2558) โดยเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี มีอัตราป่วยสูงสุดร้อยละ 45.3 โดยมีปัจจัยเสี่ยงของเด็กต่อการเกิดโรคปอดอักเสบ เช่น ภาวะขาดสารอาหาร การได้รับควันบุหรี่ ความพิการแต่กำเนิด และโรคประจำตัว จากการสังเกต ผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบ ที่รับการรักษาในโรงพยาบาลท่าคันโท พบว่า ผู้ดูแลเด็กส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ อาการที่มา คือ ไข้ ไอ หายใจหอบ ผู้ดูแลมีความวิตกกังวลในการเจ็บป่วยและไม่ทราบวิธีการดูแลเบื้องต้นที่ถูกวิธี
เพื่อศึกษา ผลของการใช้โปรแกรมการให้ความรู้รายบุคคลแก่ผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคปอดอักเสบ ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental) เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคปอดอักเสบ ที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยโรงพยาบาลท่าคันโท ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึง 30 กันยายน 2560 จำนวน 27 ราย เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย คือ โปรแกรมการให้ความรู้รายบุคคล ประกอบด้วย 1) แผนการสอนรายบุคคล โดยพยาบาลที่ได้รับการอบรมเฉพาะเรื่องการดูแลเด็กปอดอักเสบอายุต่ำกว่า 5 ปี 2) สื่อวีดีโอ 3) แผ่นพับความรู้ 4) อุปกรณ์ในการสาธิตวิธีการดูแล เก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบประเมินความรู้ ความสามารถในการดูแลผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคปอดอักเสบ และแบบสังเกตพฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยเด็ก แบ่งเป็น 4 ระดับ ใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผู้ดูแลเด็กป่วยอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคปอดอักเสบ ทั้งหมด 27 คน ส่วนใหญ่อายุมากว่า 50 ปี (ร้อยละ 74.07) ไม่เคยมีประสบการณ์ในการดูแลเด็กป่วยโรคปอดอักเสบ (ร้อยละ 88.88) หลังการเข้าสู่โปรแกรม กลุ่มตัวอย่างมีความรู้ มั่นใจ และมีความสามารถ ในการดูแลเด็กป่วยโรคปอดอักเสบได้ถูกต้องระดับมากที่สุด ในด้านกิจกรรมการดูแล โดยทำการเช็ดตัวลดไข้ จนกว่าไข้จะลด และเมื่อเด็กมีอาการหายใจหอบ พาไปโรงพยาบาลทันที ความรู้ ความสามารถด้านการดูแลในระดับต่ำที่สุด คือ การสังเกตและทำทางเดินหายใจให้โล่ง ร้อยละ 70.37 มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น ในการดูแลผู้ป่วย การใช้โปรแกรมให้ความรู้รายบุคคล ช่วยสนับสนุนกลุ่มตัวอย่างให้มีความรู้ ความมั่นใจ และความสามารถ ในการดูแลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการดูแลไข้ มีความรู้ในเรื่องการทำกายภาพบำบัดทรวงอกน้อยแม้ได้รับการสอนและคำแนะนำในการปฏิบัติ
นำไปพัฒนาความรู้ความสามารถในการดูแลเด็กปอดอักเสบในกลุ่มผุ้ดุแลหลักในครอบครัว ป้องกันอาการรุณแรง
การพยาบาลโดยให้ความรู้แบบรายบุคคล สามารถประเมินการรับรู้และให้การสนับสนุนความรู้ได้เหมาะสมในแต่ละบุคคล 2.การพยาบาล ควรสร้างบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง เพื่อให้เกิดความไว้วางใจผู้ดูแลสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข 3.การใช้สื่อ อุปกรณ์จริงในการสอนเพื่อให้ผู้ดูแลเด็กมีความเข้าใจที่รวดเร็ว
การพัฒนาการคิดเชิงระบบ การใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการทำงาน
ไม่ได้รับการสนับสนุน
ปอดอักเสบเด็ก0-5ปี
ไม่เป็น
ไม่เคย
ไม่เคย
ไม่เคย