pre-loader image

งานวิจัย R2R

ประเภทของงานวิจัย







ระดับการนำไปใช้งาน





งานวิจัยได้รับการตีพิมพ์


งานวิจัยได้รับการเผยแพร่


งานวิจัยได้รับรางวัล


ผลของการกระตุ้นเตือนความจำ โดยการพิมพ์วันนัดบนซองยาต่อความร่วมมือในการรักษาในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง คลินิกโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คลินิกหมอครอบครัวเขตเมืองน่าน

งานวิจัยปี
คำสำคัญ
ความดันโลหิตสูง รก หลัง เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไม่ติดต่อ
ประเภท
ตติยภูมิ
ระดับของการนำไปใช้
ระดับที่ 2 นำไปใช้ในหน่วยงานตนเองและหน่วยงานอื่น ๆ ในองค์กรแล้ว
ประเด็น
การรักษาวินิจฉัยโรค
ที่มา:

ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังจำเป็นต้องรับการรักษาต่อเนื่องจึงจะสามารถควบคุมโรคได้ เมื่อผู้ป่วยผิดนัดย่อมส่งผลให้ขาดยาและขาดการพบแพทย์ทำให้ไม่สามารถควบคุมโรคได้ คลินิกหมอครอบครัวเขตเมืองน่านได้แก้ปัญหาการขาดนัดโดยการโทรศัพท์ติดตามแต่ยังมีอุปสรรคด้วยปัจจัย ผู้ป่วยสูงอายุไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีเบอร์ติดต่อ เปลี่ยนเบอร์ติดต่อ และการโทรติดตามเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุที่ผู้ป่วยไม่มาตามนัด ดังนั้นการโทรติดตามยังไม่สามารถแก้ปัญหาการผิดนัดได้ จึงหาแนวทางใหม่ในการป้องกันการผิดนัดโดยการนำความสามารถด้านเทคโนโลยีและระบบสารสนเทศในการเขียนคำสั่งในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้พิมพ์วันนัดบนซองยาเมื่อผู้ป่วยหยิบซองยาขึ้นมาอ่านก่อนรับประทานยา เป็นการรกระตุ้นเตือนให้จดจำวันนัดได้ หากผู้ป่วยสามารถจดจำวันนัดที่ระบุบนซองยาได้ ย่อมทำให้อุบัติการณ์การลืมวันนัดลดลง

วัตถุประสงค์:

เพื่อลดการลืมนัดในผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง

ระเบียบวิธีวิจัย:

ศึกษาโดยใช้รูปแบบ prospective ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 ถึง 30 กันยายน 2559 โดยผู้ป่วยที่ผิดนัดจะถูกสอบถามเหตุผล คือ ลืมวันนัด ติดธุระ ไม่มีญาติพามาโรงพยาบาล ใบนัดหาย และ อื่น ๆ เช่น มีผลข้างเคียงจากยา ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เขียนคำสั่งในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้พิมพ์วันนัดบนซองยาทุกซอง จากนั้นติดตามการผิดนัดและเหตุผลของการผิดนัดตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2560 ถึง 30 เมษายน 2561

ผลการศึกษา:

ศึกษาในผู้ป่วย 1204 ราย ผู้ป่วยเบาหวาน 337 ราย ร้อยละ 28 ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 867 ราย ร้อยละ 72 อายุระหว่าง 21 ปีถึง 91 ปี อายุเฉลี่ย 59.7 ปี เพศชายร้อยละ 42 เพศหญิงร้อยละ 58 ก่อนการพิมพ์วันนัดบนซองยาได้รับการตรวจจำนวน 3598 ครั้ง มีการผิดนัดเนื่องจากลืมวันนัดจำนวน 79 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 1.92 หลังการพิมพ์วันนัดบนซองยาผู้ป่วยได้รับการตรวจจำนวน 1564 ครั้ง มีการผิดนัดเนื่องจากลืมวันนัดจำนวน 13 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 0.83 เมื่อเปรียบเทียบการลืมวันนัดก่อนและหลังการพิมพ์วันนัดบนซองยา พบว่าสามารถลดการผิดนัดจากร้อยละ 1.92 เป็นร้อยละ 0.83 อย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ เมื่อติดตามผู้ป่วยลืมวันนัดทั้ง 69 ราย พบว่าผู้ป่วยมาตรงตามนัดที่ระบุบนซองยาในครั้งต่อไปจำนวน 55 ราย คิดเป็นร้อยละ 80 และผลลัพธ์การรักษาในผู้ป่วยที่มาตามนัดสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตสูงได้ร้อยละ 94

การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในงานประจำ:

การเขียนโปรแกรมคำสั่งคอมพิวเตอร์ สามารถประยุกต์ได้ง่ายในทุกแผนก เมื่อเขียนคำสั่งแล้วระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาจัดการเหมือนการโทรศัพท์หรือการส่งไปรษณีย์ สามารถลดการสูญเสียทรัพยากรบุคคล ทรัพยากรค่าโทรศัพท์และค่าจดหมาย โรงพยาบาลน่านได้นำไปปรับใช้ในแผนกต่างๆ คลินิกอายุรกรรม พบว่าเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยมีความพึงพอใจและสามารถลดการผิดนัดได้

บทเรียนที่ได้รับ:

การรักษาผู้ป่วยเรื้อรังต้องได้รับการร่วมมือจากผู้ป่วย การขาดนัดเป็นพฤติกรรมหนึ่งซึ่งควรได้รับการแก้ไข การปรับพฤติกรรมจำเป็นต้องอาศัยหลายปัจจัยและกิจกรรมมักไม่ยั่งยืนเนื่องจากไม่ได้แก้ไขในเชิงระบบ การสร้างความตระหนัก สร้างการย้ำเตือนโดยการพิมพ์วันนัดบนซองยา เป็นเครื่องมือหนึ่งในการปรับพฤติกรรมโดยการแก้ไขเชิงระบบ ซึ่งมีความยั่งยืนในการปรับพฤติกรรม

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ:

ความต้องการแก้ไขปัญหาที่พบจากการปฎิบัติงานโดยมีความคิดเชิงระบบ จึงใช้วิธีสร้างคำสั่งในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งการพิมพ์วันนัดบนซองยามีวิธีคิดเพื่อให้สอดคล้องกับกิจวัตรที่แท้จริงของผู้ป่วยเพราะผู้ป่วยจะถูกกระตุ้นถึงวันนัดทุกครั้งที่รับประทานยา ซึ่งแตกต่างจากพิมพ์วันนัดบนใบนัดแบบเดิม ซึ่งผู้ป่วยมักไม่สนใจใบนัด และการทำงานเป็นทีมกับฝ่ายสารสนเทศและคลินิกหมอครอบครัว

การสนับสนุนที่ได้รับจากผู้บริหารหน่วยงาน/องค์กร:

หน่วยวิจัยสนับสนุนดี พอใจ

Keywords:

เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ผิดนัด ขาดนัด

เป็นสิ่งประดิษฐ์:

ไม่เป็น

เคยได้รับการตีพิมพ์:

ไม่เคย

เคยได้รับการเผยแพร่มาก่อน:

ไม่เคย

รางวัลที่ได้รับ:

ไม่เคย

ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล
นักวิจัย
ที่ปรึกษา
คุณอำนวย
ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร
จังหวัด
น่าน
ภูมิภาค
ภาคเหนือ
เขตสุขภาพ
เขตที่ 1
ข้อมูลอื่น ๆ
การสนับสนุน
ไม่ได้รับ
เผยแพร่เมื่อ
งานวิจัยนี้ส่งโดย
นักวิจัยส่งเอง