ปัจจุบันบุคลากรทางการแพทย์มีโอกาสเสี่ยงต่ออุบัติเหตุจากของแหลมคมทิ่มตำซึ่งนำสู่การแพร่กระจายเชื้อโรคติดต่อผ่านทางเลือดจากผู้ป่วยสู่บุคลากรได้ อุปกรณ์ที่ใช้บ่อยคือเข็มฉีดยา/เข็มเจาะเลือดพบมากเป็นอันดับหนึ่งเฉลี่ย350ครั้ง/วัน จากสถิติปี 2554-2556 พบอุบัติการณ์เข็มฉีดยา/เจาะเลือดทิ่มตำบุคลากร 18 ครั้ง เมื่อทบทวนพบปัญหาที่ขั้นตอนการปลดหัวเข็มออกจากกระบอกฉีดยาเนื่องจากเข็มจะเสียบแน่นกับกระบอกฉีดยาถ้าสอดในร่องกล่องทิ้งเข็มสำเร็จรูปแล้วดึงจะไม่หลุดจึงจำเป็นต้องใช้มือปลดแล้วทิ้งเข็มลงในกล่องทิ้งทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติการณ์เข็มทิ่มตำมือมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้เกิดปลอดภัยและความสะดวกของบุคลากรคณะผู้วิจัยจึงจัดทำนวัตกรรมกล่องทิ้งเข้มนี้ขึ้น
1.เพื่อประดิษฐ์และพัฒนาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ทิ้งเข็ม 2.เพื่อศึกษาผลการพัฒนาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ทิ้งเข็ม 3.เพื่อเพิ่มความปลอดภัยโดยการป้องกันและลดอุบัติการณ์ความเสี่ยงจากเข็มทิ่มตำบุคลากร
นวัตกรรมนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา(R&D)มีขั้นตอน ขั้นที่1 ทบทวนวรรณกรรมแล้วออกแบบและสร้างต้นแบบ(R1&D1)โดยนำอะลูมิเนียมมาจัดทำกล่องทิ้งเข็มมีประตูบานเลื่อนให้นำขวดยาที่เหลือใช้มาเป็นขวดรองทิ้งเข็ม ขั้นที่2 ขอจริยธรรมแล้วนำนวัตกรรมไปทดลองใช้แล้วปรับปรุงแก้ไขเป็นวงจรต่อเนื่อง(R2&D2) ขั้นที่3 สรุปผลการศึกษาพัฒนาแล้วนำมาปฏิบัติแล้วขยายผลนวัตกรรมไปใช้ กำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงได้แก่แพทย์ พยาบาลวิชาชีพทั้งหมด 20 คน ใช้เครื่องมือ:คือแบบประเมินประสิทธิภาพนวัตกรรมแบบประเมินความพึงพอใจรายงานอุบัติการณ์ความเสี่ยง ใช้สถิติ:ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา(Content Analysis) พัฒนาและใช้นวัตกรรมเดือนต.ค.2557 -ก.ย.2558
พบว่าหลังมีกระบวนการพัฒนานวัตกรรมเป็นขั้นตอนวงจร 3ครั้ง จนได้นวัตกรรมที่ดีแล้วนำมาใช้งานนวัตกรรมไม่พบอุบัติการณ์ความเสี่ยงจากเข็มทิ่มตำ เนื่องจากนวัตกรรมสามารถปลดเข็มออกจากกระบอกฉีดยาได้โดยไม่ต้องใช้มือดึงเข็มออกหลังเข็มโดนปลดออกจะตกลงยังกล่องหรือถังทิ้งเข็มได้เลย ด้านประสิทธิภาพนวัตกรรมมีแข็งแรงทนทานทำจากวัสดุอะลูมิเนียมเข็มจึงไม่สามารถแทงทะลุผ่านได้ สะดวกใช้ง่ายและเอื้อต่อการปฏิบัติบุคลากรจากการทำหัตการฉีดยาหรือเจาะเลือดเจ้าหน้าที่ความพึงพอใจในระดับมากร้อยละ96นวัตกรรมต้นทุนราคา500บาท/ตัวใช้ได้ตลอดปี ลดต้นทุนการซื้อกล่องทิ้งเข็มสำเร็จรูปราคา150/กล่องจำนวน300กล่องประหยัดได้45000บาท/ปี สรุปว่านวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นนี้ดีและมีประสิทธิภาพทำจากวัสดุที่เหลือใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายมีจัดการความเสี่ยงโดยลดและป้องกันอุบัติการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับบุคลากรได้ทำให้บุคลากรมีความปลอดภัยมากขึ้น
การนำไปใช้ประโยชน์ในการปลดเข็มออกจากกระบอกฉีดยา โดยไม่ต้องใช้มือดึงเข็มออกแล้วเข็มจะตกลงไปยังกล่องรับทำให้บุคลากรมีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น มีการพัฒนาและมีการนำไปใช้ในทุกหน่วยงานในโรงพยาบาลที่มีการทำหัตการทั้งยังขยายผลนวัตกรรมไปใช้ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพทุกแห่งในเขตอำเภอ ในจังหวัดและโรงพยาบาลอื่นๆในประเทศและต่างประเทศเช่นอินโดนีเซีย ลาวและเวียดนาม
บทเรียนหรือการเรียนรู้ที่ได้รับคือการนำปัญหาที่พบในการปฏิบัติงานมาทบทวนแล้ววางแผนการแก้ไขโดยใช้วัสดุที่หาง่ายในพื้นที่แล้วพัฒนา ประยุกต์ใช้จนดีมีประสิทธิภาพเพื่อความสะดวก ปลอดภัย ทั้งยังลดค่าใช้จ่ายจากอุปกรณ์ที่เหลือใช้กลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ช่วยลดต้นทุน ลดขยะของหน่วยงาน เป็นโอกาสการพัฒนางานประจำสานต่อคุณภาพการให้บริการที่ดีต่อไป บุคลากรมีความสุขจากงานและเกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย
1.การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ:การจัดการความเสี่ยงโดยใช้ความรู้มาประยุกต์กับงานอย่างสร้างสรรค์ทำให้เกิดการพัฒนาและแก้ปัญหาได้2.ทำงานเป็นทีม:การทำงานประจำที่เห็นปัญหาซ้ำๆนำมาสู่การแก้ปัญหาด้วยการสร้างนวัตกรรมโดยทีม ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมนำจินตนาการสู่การผลิตนวัตกรรม3.การมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคำนึงถึงแบบนวัตกรรมสู่ผลลัพธ์สะดวก ความปลอดภัยและประหยัด4.ผู้บริหารให้การสนับสนุนและบุคลากรให้ความร่วมมือ
องค์กรและผู้บริหารให้การสนับสนุนโดยแนะนำให้ข้อเสนอแนะให้ทุนในการจัดทำนวัตกรรมและในการไปนำเสนอผลงานเพื่อให้ผลงานได้รับการเผยแพร่และเป็นประโยชน์ในวงกว้างส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา/การเรียนรู้การทำงานโดยทีมเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผลงานและบุคลากรทำให้มีขวัญและกำลังใจที่ดีเกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย
ไม่มีข้อมูล
ไม่เป็น
ไม่เคย
การประชุมระดับนานาชาติ “The 1st International Conference 2015 on Public Health in Asian (PHA2015)” คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี วันที่ 14-15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 2558
The Best Innovation award 2015 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี 2558