pre-loader image

งานวิจัย R2R

ประเภทของงานวิจัย







ระดับการนำไปใช้งาน





งานวิจัยได้รับการตีพิมพ์


งานวิจัยได้รับการเผยแพร่


งานวิจัยได้รับรางวัล


การพัฒนาการดำเนินงานเพื่อลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติเกี่ยวข้องกับเอชไอวีเอดส์ในบุคลากรโรงพยาบาลโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

งานวิจัยปี
คำสำคัญ
ข้อ ติดเชื้อ หน้า เลือด เอชไอวี เอดส์
ประเภท
ทุติยภูมิ
ระดับของการนำไปใช้
ระดับที่ 3 นำไปใช้ได้หลายแห่งในจังหวัดเดียวกันแล้ว
ประเด็น
การสนับสนุนบริการ ธุรการ,IT,ห้อง Lab,x-ray อื่นๆ (การพัฒนาการดำเนินงานเพื่อลดการตีตราและการเลืกปฏิบัติี่เกี่ยวข้องกับเอชไอวัเอดส์)
ที่มา:

ใน ปี 2559 โรงพยาบาลโพนพิสัยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์เข้ารับบริการจำนวน 523 ราย พบอุบัติการณ์บุคลากรเปิดเผยข้อมูลผู้ติดเชื้อโดยไม่ได้รับการยินยอม จนเกิดข้อร้องเรียน พบการปฏิบัติต่อผู้รับบริการที่รอรับยาต้านไวรัสด้วยท่าทีไม่เหมาะสม เกิดเสียงสะท้อนของผู้รับบริการเรื่องการละเมิดสิทธิ์ผู้ป่วย ซึ่งเป็นการตีตราและการเลือกปฏิบัติ จากการประเมินสถานการณ์พบว่าบุคลากรมีความรู้เรื่องโรคเอดส์และทัศนคติการอยู่ร่วมกันไม่ถูกต้อง ซึ่งสถานบริการสุขภาพควรเป็นองค์กรที่เคารพสิทธิ ไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานอื่น นอกจากนี้ปัญหาดังกล่าวยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ส่งผลกระทบด้านลบต่อการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี การเปิดเผยสถานะการติดเชื้อ การเข้ารับรักษา อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นได้

วัตถุประสงค์:

เพื่อประเมินสถานการณ์การปฏิบัติของบุคลากรต่อผู้รับบริการที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี และพัฒนาแนวทางการปฏิบัติของบุคลากรต่อผู้รับบริการที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี

ระเบียบวิธีวิจัย:

เป็นวิจัยเชิงปฏิบัติการ ผู้ร่วมวิจัยประกอบด้วย บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ 161 คน ได้แก่ แพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ เภสัชกรผู้ช่วยเหลือคนไข้ เวรเปล เจ้าหน้าที่เวชสถิติ/ห้องเก็บเงิน มีขั้นตอนคือ1)การวิเคราะห์การปฏิบัติของบุคลากรเกี่ยวข้องกับเอชไอวีโดยใช้แบบสอบถาม การสังเกต การสนทนากลุ่มจำนวน2ครั้ง แบบสำรวจการตีตราและการเลือกปฏิบัติสัมภาษณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวี30รายและแบบประเมินความสุข2)วางแผนพัฒนาคืนข้อมูลแก่ผู้เกี่ยวข้อง3)การให้ความรู้เรื่องโรคเอดส์ทัศนคติการอยู่ร่วมกันผ่านการเรียนรู้ครอบคลุมบุคลากร100%4)การติดตามประเมินผลที่หน้างานทุกแผนก ช่วงตุลาคม2558ถึงตุลาคม2559 เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบบันทึกการสังเกต แบบประเมินความสุข การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ค่าเฉลี่ย ร้อยละและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา

ผลการศึกษา:

พบว่าลูกจ้างมีความรู้เรื่องโรคเอดส์ทัศนคติอยู่ในระดับต่ำ และเป็นกลุ่มนี้ที่ไม่เคยได้รับความรู้มาก่อน ส่วนใหญ่รู้สึกกังวลกลัวการติดเชื้อ ทำให้ปฏิบัติต่อผู้ป่วยแตกต่างจากกลุ่มอื่น การพัฒนาคือ1)การสะท้อนให้ผู้เกี่ยวข้อง บุคลากรทุกคนต้องรับความรู้ทัศนคติแนวทางปฏิบัติ2)การเรียนรู้ที่หน้างาน3)กำหนดนโยบายด้านเอดส์ พบว่าบุคลากรอบรม195รายร้อยละ70.65ให้ความรู้ที่หน้างานร้อยละ29.35ความรู้ทัศนคติเพิ่มขึ้นจากร้อยละ62.18เป็นร้อยละ91.64ผลสำรวจตีตราและเลือกปฏิบัติพบว่าความกังวลเวลาหยิบจับเสื้อผ้าผู้ติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ40.30ลดลงร้อยละ2.5การใช้เครื่องป้องกันเป็นพิเศษร้อยละ47.7ลดลงร้อยละ13.24กังวลมากต่อการทำแผล/การเจาะเลือดผู้ติดเชื้อร้อยละ8.8ลดลงร้อยละ 3.14 ตามลำดับไม่พบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิ การประเมินความสุขผู้ติดเชื้อต่อการรับบริการพบว่าโดยรวมอยู่ในระดับมาก

การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในงานประจำ:

ผลต่อผู้ป่วย ได้รับการปฏิบัติโดยไม่รังเกียจ การตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ผู้ติดเชื้อบอกว่า"อยากมารับยาที่นี่" ผลต่อหน่วยงาน มีความรู้ที่ถูกต้องมีทัศนคติที่ดีต่อผู้ติดเชื้อฯส่งผลดีต่อการให้บริการโดยไม่เลือกปฏิบัติผู้ป่วยนอนรักษาได้ทุกเตียงไม่แบ่งแยก ขยายผลสู่รพ.สต.ชุมชนนำร่องเพื่อลดการตีตราและเสนอในงานเอดส์

บทเรียนที่ได้รับ:

ความรู้ความเข้าใจที่ถูกจต้องและทัศนคติทีดีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการให้บริการผู้ติดเชื้อฯที่เท่าเทียมกัน การบริการไม่แปลกแยกจากการให้การดูแลผู้ป่วยในกลุ่มอื่นๆเจ้าหน้าที่เห็นความสำคัญในการในบริการที่ไม่ตีตราและไม่เลือกปฏิบัติ บุคลากรเข้าใจผู้ติดเชื้อฯมากขึ้น ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์องค์กร เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับองค์กรอื่นในระดับจังหวัด ระดับเขต และในระดับประเทศ

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ:

การมีส่วนร่วมของทีมสหวิชาชีพและความร่วมมือของบุคลากรเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาการดำเนินการในครั้งนี้ จากผลงานวิจัยครั้งนี้มีส่วนหนุนเสริมให้องค์กรของโรงพยาบาลโพนพิสัย ผ่านการประเมินองค์กร ดูแล ห่วงใยใส่ใจป้องกันเอดส์ในที่ทำงานชนะเลิศระดับเขตในปี 2559 และทำให้องค์กรได้รับการยอมรับจากผู้รับบริการและบุคคลภายนอก เกิดความมั่นใจต่อระบบบริการที่ไม่ตีตราและการเลือกปฏิบัติ

การสนับสนุนที่ได้รับจากผู้บริหารหน่วยงาน/องค์กร:

ผู้บริหารสูงสุด หัวหน้างานทุกแผนกให้การสนับสนุน ให้โอกาสบุคลากรทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมและสนับสนุนให้มีการดำเนินงานที่หน้างานแต่ละแผนก สนับสนุนให้เกิดนโยบายขององค์กรที่ไม่ตีตราและไม่เลือกปฏิบัติเป็นนโยบายของโรงพยาบาล และได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สปสช.เขต 8 อุดรธานี

Keywords:

ไม่มีข้อมูล

เป็นสิ่งประดิษฐ์:

ไม่เป็น

เคยได้รับการตีพิมพ์:

ไม่เคย

เคยได้รับการเผยแพร่มาก่อน:

งานสัมมนาระดับชาติเรื่องเอดส์ โรงแรมเซนทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพ 7-9 มี.ค.2560 2560

รางวัลที่ได้รับ:

ไม่เคย

ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล
นักวิจัย
ที่ปรึกษา
คุณอำนวย
ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร
จังหวัด
หนองคาย
ภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เขตสุขภาพ
เขตที่ 8
ข้อมูลอื่น ๆ
การสนับสนุน
ไม่ได้รับ
เผยแพร่เมื่อ
งานวิจัยนี้ส่งโดย
นักวิจัยส่งเอง