pre-loader image

งานวิจัย R2R

ประเภทของงานวิจัย







ระดับการนำไปใช้งาน





งานวิจัยได้รับการตีพิมพ์


งานวิจัยได้รับการเผยแพร่


งานวิจัยได้รับรางวัล


รูปแบบการแก้ไขปัญหาฟันน้ำนมผุในเด็ก 2-5 ปี โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและครูพี่เลี้ยงเด็ก

งานวิจัยปี
คำสำคัญ
ช่องปาก ติดเชื้อ ปาก ฟัน ฟันผุ หลัง ใบหน้า
ประเภท
ปฐมภูมิ
ระดับของการนำไปใช้
ระดับที่ 1 นำไปใช้ในหน่วยงานตนเองแล้ว
ประเด็น
งานเภสัชกรรม/ทันตกรรม
ที่มา:

จากการดำเนินงานตรวจสุขภาพฟันในศูนย์เด็กเล็กพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขุนควร ปี 2558 พบว่าเด็กอายุ 2-5 ปี จำนวน 84 คน มีอัตราฟันผุถึงร้อยละ 61.09 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์สภาวะทันตสุขภาพในระดับประเทศ โดยมีอัตราฟันน้ำนมผุเฉลี่ยอยู่ที่ 1.32 ซี่/คน ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหากับตัวเด็ก อาทิ ด้านบุคลิกภาพ มีกลิ่นปาก ความผิดปกติของใบหน้าและพัฒนาการด้านอื่นๆ ที่สำคัญอาจจะก่อให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากอันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากในภายภาคหน้าดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ศึกษารูปแบบการแก้ไขปัญหาฟันน้ำนมผุในเด็ก 2-5 ปี โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและครูพี่เลี้ยงเด็กเพื่อความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาฟันน้ำนมผุในเด็ก

วัตถุประสงค์:

1.เพื่อพัฒนารูปแบบแก้ไขปัญหาฟันน้ำนมผุในเด็ก 2-5ปีแบบมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและครูพี่เลี้ยงเด็ก 2.เพื่อศึกษาผลของรูปแบบแก้ไขปัญหาฟันน้ำนมผุในเด็ก 2-5ปีแบบมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและครูพี่เลี้ยงเด็ก

ระเบียบวิธีวิจัย:

การวิจัยเชิงปฏิบัติการ( Action Research) เก็บข้อมูลตั้งแต่ พฤษภาคม 2558 - พฤษภาคม 2559 กลุ่มเป้าหมายเป็น ผู้ปกครองเด็กจำนวน 84 คนและครูพี่เลี้ยงเด็กจำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยแบบสำรวจสภาวะทันตสุขภาพในเด็ก 2-5 ปี มีขั้นตอนการวิจัยดังนี้ 1)วิเคราะห์ข้อมูล วางแผนการดำเนินงาน 2)คืนข้อมูล สะท้อนปัญหากับกลุ่มตัวอย่าง 3)ทำโฟกัสกรุ๊ปให้กลุ่มตัวอย่างร่วมตัดสินใจหาแนวทางดำเนินการแก้ไข 4)ตรวจประเมินสภาวะทันตสุขภาพหลังดำเนินการ 5)สรุปผลและคืนข้อมูลกลับให้กับผู้ปกครองและศูนย์เด็กเล็ก วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา ความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย

ผลการศึกษา:

จากการคืนข้อมูลด้านสภาวะทันตสุขภาพของเด็กให้กับกลุ่มตัวอย่าง เกิดการร่วมกันคิดร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาฟันน้ำนุผุในเด็ก มีแนวทางที่ได้คือการให้เจ้าหน้าทันตอบรมความรู้ประกอบการสาธิตการแปรงฟันในเด็กกับกลุ่มผู้ปกครองและครูพี่เลี้ยงเด็ก ให้ครูพี่เลี้ยงจัดสื่อเพลงประกอบการแปรงฟันหลังรับประทานอาหารกลางวันและบันทึกผลการแปรงฟันลงในสมุดประจำตัว ผู้ปกครองแปรงฟันซ้ำก่อนนอนให้กับเด็กและไม่ให้ซื้อขนมหวานให้กับเด็กติดกระเป๋ามาเข้าศูนย์เด็กเล็ก กรณีที่พบว่าเด็กเริ่มมีฟันผุให้รีบแจ้งครูพี่เลี้ยงและให้มาพบเจ้าหน้าที่ทันตสาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขุนควร หลังจากดำเนินการผ่านไป 6 เดือนได้มีการตรวจสภาวะทันตสุขภาพของเด็ก 2-5ปีพบว่า อัตราฟันน้ำนมผุในเด็กลดลงจากร้อยละ 61.09 เป็นร้อยละ 26.19 ค่าเฉลี่ยฟันน้ำนมผุ 0.64 ซี่/คน

การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในงานประจำ:

ผลการศึกษาที่ได้นำไปวางแผนปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาฟันน้ำนมผุในศูนย์เด็กเล็กตำบลขุนควรและใช้กำหนดแนวทางการให้ความรู้ สร้างทักษะการแปรงฟันในเด็กกับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานฟันผุและการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็ก

บทเรียนที่ได้รับ:

การคืนข้อมูลและทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ปกครอง ครูพี่เลี้ยงเด็กในการแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากในเด็กที่เกิดขึ้นให้รับรู้และร่วมกันคิด ร่วมกันตัดสินใจหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันทำให้เกิดความยั่งยืนในการจัดการปัญหาและสามารถพัฒนาเป็นแผนการให้ทันสตสุขศึกษาได้เป็นอย่างดี

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ:

การได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองและครูพี่เลี้ยงเด็ก ในการจัดทำรูปแบบการแก้ปัญหาฟันน้ำนมผุในเด็กทำให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

การสนับสนุนที่ได้รับจากผู้บริหารหน่วยงาน/องค์กร:

งบสนับสนุนจากหน่วยงาน ผู้บริหารให้กับสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพในพื้นที่และความช่วยเหลือจากบุคลากรกลุ่มงานทันตกรรมในเครือข่าย

Keywords:

ไม่มีข้อมูล

เป็นสิ่งประดิษฐ์:

ไม่เป็น

เคยได้รับการตีพิมพ์:

ไม่เคย

เคยได้รับการเผยแพร่มาก่อน:

ไม่เคย

รางวัลที่ได้รับ:

ไม่เคย

ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล
นักวิจัย
ที่ปรึกษา
คุณอำนวย
ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร
จังหวัด
พะเยา
ภูมิภาค
ภาคเหนือ
เขตสุขภาพ
เขตที่ 1
ข้อมูลอื่น ๆ
การสนับสนุน
ไม่ได้รับ
เผยแพร่เมื่อ
งานวิจัยนี้ส่งโดย
นักวิจัยส่งเอง