อัตราการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยที่ส่งเสริมให้อาการของโรคมีภาวะที่รุนแรงขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมสุขภาพและแบบแผนการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสม การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจเป็นรูปแบบหนึ่งของการดูแลที่สามารถช่วยควบคุมอาการ และป้องกันความรุนแรงของโรค ผู้ป่วยมีแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ มีความสามารถในการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมที่ดีขึ้น คณะทำงานพัฒนาการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจจึงได้พัฒนาการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจแบบองค์รวม การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ องค์ประกอบ คือ การให้คำแนะนำด้านการออกกำลังกาย การให้ความรู้ คำปรึกษา การสนับสนุนทางด้านจิตใจโดยมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยสามารถกลับคืนสู่สภาพที่ดีที่สุดทั้งด้านร่างกาย จิตใจและสังคม มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เพื่อศึกษาผลของการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจโดยทีมสหสาขาวิชาชีพต่อความสามารถในการออกกำลังกายในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
การวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดก่อนเเละหลัง ประชากรคือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกเเบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 40 ราย เกณฑ์ในการคัดเลือก คือ ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหลังจำหน่ายจากโรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 4สัปดาห์ ระดับความเสี่่ยงต่ำถึงปานกลาง ไม่มีข้อห้ามในการออกกำลังกาย เก็บข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม 2553-กันยายน 2554 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล เเบบบันทึกความสามารถในการออกกำลังกายและโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ พัฒนาจากชมรมฟื้นฟูหัวใจ โดยผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ (1 ครั้ง/สัปดาห์)ประเมินผลความสามารถในการออกกำลังกายโดยการเดิน 6 นาที สัปดาห์ที่ 1เเละ 6เปรียบเทียบความสามารถในการออกกำลังกายก่อนเเละหลังได้รับโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ โดยใช้สถิติ paired t test
กลุ่มตัวอย่าง เป็นเพศชาย ร้อยละ 72.5 มีอายุระหว่าง 42-76 ปี โดยส่วนใหญ่มีอายุ 60-69 ปี สถานภาพคู่ ร้อยละ 85 ระดับการศึกษา ประถมศึกษาร้อยละ 70 ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงาน ร้อยละ 45 การวินิจฉัยโรค ส่วนใหญ่ คือ Unstable angina และ STEMI ร้อยละ 40 โดยผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหลังได้รับโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจมีความสามารถในการออกกำลังกายมากกว่าก่อนได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จากการศึกษาพบว่าการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ โดยการให้ความรู้เรื่องโรคและการปฏิบัติตน การสนับสนุนทางด้านจิตใจ การให้คำปรึกษา การส่งเสริมการออกกำลังกายส่งผลให้ผู้ป่วยมีความสามารถในการออกกำลังกายที่ดีขึ้น
จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานจากวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่งเป็นการทำงานร่วมกันโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมในทุกด้าน มีการวางแผนการดูแลผู้ป่วยร่วมกัน เกิดความร่วมแรงร่วมใจในการทำงานเพื่อให้เกิดคุณภาพในการดูแลผู้ป่วย โดยผลการศึกษาจะนำไปสู่การขยายผลการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังกลุ่มอื่นต่อไป
ในแต่ละวิชาชีพมีข้อจำกัดและความสามารถในการดูแลผู้ป่วยเฉพาะด้าน แต่เมื่อมีการดูแลผู้ป่วยร่วมกันจากทุกสหสาขาวิชาชีพ จะทำให้ข้อจำกัดหายไป เกิดการขยายการดูแลผู้ป่วยได้ครอบคลุมในทุกด้าน
ความร่วมมือร่วมใจและการประสานกันในการทำงาน โดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน คือให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีและมีประสิทธิภาพ
ได้รับสนับสนุนโครงการ จัดสรรงบประมาณในการซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย และให้มีการจัดตั้งคลินิกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ร่วมกับสนับสนุนเวลาในการพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ไม่มีข้อมูล
ไม่เป็น
ไม่เคย
ไม่เคย
ไม่เคย